อย่าพึ่งมองแรงง้างมือใส่เราแบบนั้นค่ะ กระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาเรี่ยไรเงินแต่อย่างใด เราอยากมาเล่าประสบการณ์ใช้ชีวิตด้วยเงิน500บาทในกรุงเทพฯ ครั้งหนึ่งในชีวิตของตัวเอง (เผื่อเป็นวิทยาทานแก่คนที่ชีวิตอยู่ในช่วงดิ่งลง หรือคนที่กำลังมองหาเพื่อนร่วมชะตากรรมในยุคนี้ไปปรับใช้ได้นะคะ)
ตอนนั้นเรามีเงิน500บาทกับกระเป๋าผ้า1ใบ พร้อมหนี้ผ่อนโทรศัพท์งวดสุดท้ายวันที่6 อีก2000 ตอนดวงตกก็ตกจริงๆค่ะโทรศัพท์ดันเปียกน้ำพังด้วย TT ในสมองเราประมวลผลเรียงลำดับปัจจัยดำรงชีพก่อนได้แบบนี้
ที่อยู่อาศัย > งานทำ > อาหาร > ค่าเดินทาง = ที่เหลือเราเลือกตัดทิ้งเพราะไม่มีทางเลือกแล้ว (เน็ทไม่ได้ต่อ/โทรศัพท์จะขายแต่ดันเปียกฝนพังไปก่อนหน้านี้เหลือแต่เครื่องจอแตกเก่าๆ)
ที่อยู่ :: เราไปขออาศัยหอเพื่อนอยู่ ช่วงนั้นเพื่อนจะกลับบ้านต่างจังหวัดพอดี เพื่อนมาฝึกงานในกรุงทางบริษัทจ่ายค่าหอให้เราเลยขออยู่ไปก่อน แต่ไม่อยู่นานคิดว่าเงินเดือนออกจะช่วยจ่ายค่าไฟแล้วย้ายออก
งานทำ :: เดินสมัครไปทั่วเลยค่ะ เอาที่ใกล้ๆไว้ก่อน สุดท้ายก็ได้ที่ต้องนั่งรถไปกลับ14บาท เป็นโรงงาน(ตังออกวันที่15ดีกว่าออกสิ้นเดือน)
อาหาร :: มาม่าเลยจ้าาา 12ซอง50-51บาท ตีไป200บาทได้48ซอง น้ำใช้กดใส่ขวดเอา พออยู่ได้ครึ่งเดือน ซัดแต่มาม่าพอเข้าวันที่6-7เกิดอาการหิวค่ะหิวอย่างอื่น กินมาม่าอิ่มแล้วก็ยังหิวอยู่เดาว่าน่าจะขาดสารอาหารแบบนี้รึเปล่า เลยสอยโอวัลตินแบบซองมา 20ซอง ประมาณ120บาท กับซื้อไข่มาใส่มาม่าด้วย
ค่าเดินทาง :: วันละ14บาท 15วัน ตก200กว่าบาท *ซึ่งเกินงบแล้วค่ะ
หนี้2000บาทกับค่าเดินทางที่ไม่พอใช้ เราเลยได้ขอยืมเงินเพื่อนครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ TT รู้สึกแย่นะที่ยืมแต่มันไม่พอใช้จริงๆ เราเลือกยืมเพื่อนที่เป็นเพื่อนกันจริงๆตั้งแต่สมัยเด็กสมัยเรียน เพราะเพื่อนที่ทำงานเก่าคิดว่าคงไม่ให้ยืม(เราย้ายงานพอดี) ยืมคนละ200-300 ไม่มากซึ่งเพื่อนที่เราทักไปเขาขอเลขบัญชีเราเลย ไม่มีถามเอาไปทำไรคืนเมื่อไหร่สักคน ตอนนี้ซึ้งน้ำใจเพื่อนทุกคนมากๆ ได้เงินมาจ่ายค่าผ่อนโทรศัพท์กับค่าเดินทางส่วนเหลือซื้อของกินบ้างเล็กๆน้อยๆ
*เงินออกวันที่15* ได้มาประมาณ3500 จ่ายหนี้เพื่อนไป2000+กว่าบาท โล่งใจไปเปราะนึง เหลือประมาณ1000ยังคงกินมาม่ากันต่อไป เวลาเห็นของกินหรือได้กลิ่นจะหิวมากกแทบจะร้องไห้ แต่ต้องอดทนยังมีค่ามัดจำหอรออยู่ข้างหน้า
สิ้นเดือนหาหอใหม่ถูกๆ ค่ามัดจำหอจ่ายรวมทั้งหมดแรกเข้า4000+ (แต่ตังยังไม่พออยู่ดี) ขออยู่หอเพื่อนต่อไปเดือนนี้เพื้อนจะคืนหอฝึกงานเสร็จพอดี ตังไม่พอก็ต้องพอละไม่งั้นไม่มีที่อยู่
วันที่15ได้ย้ายไปอยู่หอใหม่ จ่ายค่าหอ+ซื้อพัดลมกับกาต้มน้ำตังแทบหมดอีกแล้ว คราวนี้ได้ยืมคนที่คุยกันมานาน 500 บาท (เลือกยืมเป็นสุดท้ายเพราะแฟนก็ยังไม่ใช่แค่คุยกันให้กำลังใจกันมาเรื่อยๆ)
เขา(คนคุย) ก็ถามมาทำไมไม่ค่อยออนเฟสเดี๋ยวนี้ เราบอกไปว่าพึ่งเริ่มงานใหม่ยุ่งๆ ไม่มีเวลาเลยไม่ต่อเน็ทดีกว่าใช้ไม่คุ้มค่าเน็ท (อยู่ไกลกันเราอาศัยเล่นเน็ทเพื่อนตอนดึกๆ) เราไม่อยากบอกเขานะว่ามีปัญหา เลือกบอกว่ายืมเงินมาสำรองไว้เฉยๆย้ายหอค่าใช้จ่ายเยอะ สิ้นเดือนจะคืนให้
ผ่านไปไม่นานมีข้อความว่าตังเข้าโทรศัพท์เรา1000นึง เขาโทรมาเหมือนจะรู้ว่าเรามีปัญหาแต่ก็ไม่พูดตรงๆ เราถามว่าเติมให้ทำไม เขาบอกอยากให้ลองโปรเน็ทอันนี้ดูเน็ทแรงดีนะไม่สะดุดเลย เอาไว้ดูซีรีย์ไงไม่ต้องคืนให้เฉยๆอยากให้ (เราชอบดูซีรีย์มากเขาบ่นบ่อยว่าสนใจซีรีย์มากกว่าเขา) ส่วนเงินเขาโอนมาให้อีกพันนึงบอกว่าเผื่อใช้เยอะไม่ต้องรีบคืนก็ได้ เราร้องไห้ตรงนั้นเลยไม่คุยกับเขาแล้วไม่อยากให้ได้ยินเสียงเราร้องไห้
จากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านมาหลายเดือนแล้วค่ะ ประสบการณ์แบบนั้นเราลืมไม่ลงจริงๆกินได้แค่มาม่าเนี้ย
แต่ในความดวงตกก็ยังมีสิ่งดีๆอยู่ ได้มองเห็นอะไรอีกเยอะ อยากฝากถึงคนที่ประสบปัญหาทำนองนี้นะคะ คุณอาจไม่ได้เคยเจอเพียงลำพัง ต้องมีคนที่ยังห่วงและให้กำลังใจคุณอยู่ค่ะ หาคนๆนั้นให้เจอแล้วจะมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาเอง
ปล . สุดท้าย ตนเป็นที่พึ่งแห่งคนค่ะ แต่บางครั้งเราก็ต้องมีมิตรภาพกับคนรอบข้างไว้บ้าง เพราะเราไม่รู้ว่าจะล้มลงเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นความช่วยเหลือจากคนรอบข้างจะมีความหมายสำหรับตัวเรามาก
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ
มีเงิน500บาท อยู่ยังไงให้ถึงสิ้นเดือน..
ตอนนั้นเรามีเงิน500บาทกับกระเป๋าผ้า1ใบ พร้อมหนี้ผ่อนโทรศัพท์งวดสุดท้ายวันที่6 อีก2000 ตอนดวงตกก็ตกจริงๆค่ะโทรศัพท์ดันเปียกน้ำพังด้วย TT ในสมองเราประมวลผลเรียงลำดับปัจจัยดำรงชีพก่อนได้แบบนี้
ที่อยู่อาศัย > งานทำ > อาหาร > ค่าเดินทาง = ที่เหลือเราเลือกตัดทิ้งเพราะไม่มีทางเลือกแล้ว (เน็ทไม่ได้ต่อ/โทรศัพท์จะขายแต่ดันเปียกฝนพังไปก่อนหน้านี้เหลือแต่เครื่องจอแตกเก่าๆ)
ที่อยู่ :: เราไปขออาศัยหอเพื่อนอยู่ ช่วงนั้นเพื่อนจะกลับบ้านต่างจังหวัดพอดี เพื่อนมาฝึกงานในกรุงทางบริษัทจ่ายค่าหอให้เราเลยขออยู่ไปก่อน แต่ไม่อยู่นานคิดว่าเงินเดือนออกจะช่วยจ่ายค่าไฟแล้วย้ายออก
งานทำ :: เดินสมัครไปทั่วเลยค่ะ เอาที่ใกล้ๆไว้ก่อน สุดท้ายก็ได้ที่ต้องนั่งรถไปกลับ14บาท เป็นโรงงาน(ตังออกวันที่15ดีกว่าออกสิ้นเดือน)
อาหาร :: มาม่าเลยจ้าาา 12ซอง50-51บาท ตีไป200บาทได้48ซอง น้ำใช้กดใส่ขวดเอา พออยู่ได้ครึ่งเดือน ซัดแต่มาม่าพอเข้าวันที่6-7เกิดอาการหิวค่ะหิวอย่างอื่น กินมาม่าอิ่มแล้วก็ยังหิวอยู่เดาว่าน่าจะขาดสารอาหารแบบนี้รึเปล่า เลยสอยโอวัลตินแบบซองมา 20ซอง ประมาณ120บาท กับซื้อไข่มาใส่มาม่าด้วย
ค่าเดินทาง :: วันละ14บาท 15วัน ตก200กว่าบาท *ซึ่งเกินงบแล้วค่ะ
หนี้2000บาทกับค่าเดินทางที่ไม่พอใช้ เราเลยได้ขอยืมเงินเพื่อนครั้งแรกในชีวิตเลยค่ะ TT รู้สึกแย่นะที่ยืมแต่มันไม่พอใช้จริงๆ เราเลือกยืมเพื่อนที่เป็นเพื่อนกันจริงๆตั้งแต่สมัยเด็กสมัยเรียน เพราะเพื่อนที่ทำงานเก่าคิดว่าคงไม่ให้ยืม(เราย้ายงานพอดี) ยืมคนละ200-300 ไม่มากซึ่งเพื่อนที่เราทักไปเขาขอเลขบัญชีเราเลย ไม่มีถามเอาไปทำไรคืนเมื่อไหร่สักคน ตอนนี้ซึ้งน้ำใจเพื่อนทุกคนมากๆ ได้เงินมาจ่ายค่าผ่อนโทรศัพท์กับค่าเดินทางส่วนเหลือซื้อของกินบ้างเล็กๆน้อยๆ
*เงินออกวันที่15* ได้มาประมาณ3500 จ่ายหนี้เพื่อนไป2000+กว่าบาท โล่งใจไปเปราะนึง เหลือประมาณ1000ยังคงกินมาม่ากันต่อไป เวลาเห็นของกินหรือได้กลิ่นจะหิวมากกแทบจะร้องไห้ แต่ต้องอดทนยังมีค่ามัดจำหอรออยู่ข้างหน้า
สิ้นเดือนหาหอใหม่ถูกๆ ค่ามัดจำหอจ่ายรวมทั้งหมดแรกเข้า4000+ (แต่ตังยังไม่พออยู่ดี) ขออยู่หอเพื่อนต่อไปเดือนนี้เพื้อนจะคืนหอฝึกงานเสร็จพอดี ตังไม่พอก็ต้องพอละไม่งั้นไม่มีที่อยู่
วันที่15ได้ย้ายไปอยู่หอใหม่ จ่ายค่าหอ+ซื้อพัดลมกับกาต้มน้ำตังแทบหมดอีกแล้ว คราวนี้ได้ยืมคนที่คุยกันมานาน 500 บาท (เลือกยืมเป็นสุดท้ายเพราะแฟนก็ยังไม่ใช่แค่คุยกันให้กำลังใจกันมาเรื่อยๆ)
เขา(คนคุย) ก็ถามมาทำไมไม่ค่อยออนเฟสเดี๋ยวนี้ เราบอกไปว่าพึ่งเริ่มงานใหม่ยุ่งๆ ไม่มีเวลาเลยไม่ต่อเน็ทดีกว่าใช้ไม่คุ้มค่าเน็ท (อยู่ไกลกันเราอาศัยเล่นเน็ทเพื่อนตอนดึกๆ) เราไม่อยากบอกเขานะว่ามีปัญหา เลือกบอกว่ายืมเงินมาสำรองไว้เฉยๆย้ายหอค่าใช้จ่ายเยอะ สิ้นเดือนจะคืนให้
ผ่านไปไม่นานมีข้อความว่าตังเข้าโทรศัพท์เรา1000นึง เขาโทรมาเหมือนจะรู้ว่าเรามีปัญหาแต่ก็ไม่พูดตรงๆ เราถามว่าเติมให้ทำไม เขาบอกอยากให้ลองโปรเน็ทอันนี้ดูเน็ทแรงดีนะไม่สะดุดเลย เอาไว้ดูซีรีย์ไงไม่ต้องคืนให้เฉยๆอยากให้ (เราชอบดูซีรีย์มากเขาบ่นบ่อยว่าสนใจซีรีย์มากกว่าเขา) ส่วนเงินเขาโอนมาให้อีกพันนึงบอกว่าเผื่อใช้เยอะไม่ต้องรีบคืนก็ได้ เราร้องไห้ตรงนั้นเลยไม่คุยกับเขาแล้วไม่อยากให้ได้ยินเสียงเราร้องไห้
จากวันนั้นถึงวันนี้ผ่านมาหลายเดือนแล้วค่ะ ประสบการณ์แบบนั้นเราลืมไม่ลงจริงๆกินได้แค่มาม่าเนี้ย
แต่ในความดวงตกก็ยังมีสิ่งดีๆอยู่ ได้มองเห็นอะไรอีกเยอะ อยากฝากถึงคนที่ประสบปัญหาทำนองนี้นะคะ คุณอาจไม่ได้เคยเจอเพียงลำพัง ต้องมีคนที่ยังห่วงและให้กำลังใจคุณอยู่ค่ะ หาคนๆนั้นให้เจอแล้วจะมีแรงฮึดสู้ขึ้นมาเอง
ปล . สุดท้าย ตนเป็นที่พึ่งแห่งคนค่ะ แต่บางครั้งเราก็ต้องมีมิตรภาพกับคนรอบข้างไว้บ้าง เพราะเราไม่รู้ว่าจะล้มลงเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นความช่วยเหลือจากคนรอบข้างจะมีความหมายสำหรับตัวเรามาก
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ